เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซังตุส ฌูนีโยร์ หรือ เนย์มาร์ นักฟุตบอลทีมชาติบราซิล ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ในตอนนี้เขาเล่นให้กับสโมสรปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง ในตำแหน่งกองหน้า เนย์มาร์ เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1992 ในโมกี ดาส ครูเซส เซาเปาโล ประเทศบราซิล เขาเติบโตมาพร้อมกับความรักในการเล่นฟุตบอล พ่อของเขา คือ เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซีเนียร์ ซึ่งเป็นอดีตนักฟุตบอล ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่ไม่ร่ำรวยมากนัก ต่อมาครอบครัวของเขาได้ย้ายไปอยู่ที่เมือง เซา บิเซนเต และที่นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของเขา
เนย์มาร์ เข้าร่วมในทีมฟุตบอลระดับเยาวชนของ โปรตูกีซ่า จากนั้นในปี 2003 เขาก็ย้ายไปเล่นให้กับทีมเยาวชนของสโมสรซังตุส ในประเทศบราซิล เนย์มาร์สามารถโชว์ฝีเท้าและทักษะได้อย่างยอดเยี่ยม
ในปี 2009 ในตอนที่เขามีอายุ เพียงแค่ 17 ปี เนย์มาร์ ก็ได้ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของทีมซังตุส โดยในเกมแรกที่เขามีโอกาสลงสนามคือเกมที่พบกับ โอเอสเต้ ในช่วงเดือนมีนาคม
ในปี 2010 เนย์มาร์ ทำผลงานสร้างชื่อให้กับตัวเอง ด้วยการยิงประตูได้ถึง 5 ประตูในเกมที่พบกับ กัวรานี่ ทำให้ซังตุส ชนะไป 8-1 และทำให้ทีมคว้าแชมป์เปาลิสต้าในปี 2010 มาครอง และในฤดูกาลนี้ เนย์มาร์ ยังสามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์มาครอง ด้วยการทำประตูไป 14 ประตู ในการลงสนาม 19 นัด
ในเดือน มิถุนายน 2010 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอจำนวน 12 ล้านปอนด์ เพื่อขอซื้อตัว เนย์มาร์ ไปร่วมทีม แต่ ซังตุส ก็ปฏิเสธไปแบบไม่ต้องคิดอะไรมากเลย หลังจากนั้น เนย์มาร์ก็มีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมออกมาเป็นระยะ ซึ่งทำให้สโมสรซังตุส ต้องทำการต่อสัญญากับเนย์มาร์ต่อไปจนถึงปี 2014 ทันที พร้อมกับมีการตั้งค่าตัวของเขาไว้ 30 ล้านยูโร
แต่กระแสข่าวการย้ายทีมของเขาก็ยังไม่หมดไป เมื่อเอเย่นต์ของเขาออกมาพูดว่า เนย์มาร์ ต้องการย้ายทีมไปยังสโมสรในยุโรป แต่ทางด้านของเนย์มาร์ ก็ออกมาบอกว่า เขาต้องการมุ่งมั่นและมีสมาธิกับการเล่นให้ทีมต้นสังกัดของเขาเท่านั้น ซึ่งในเวลานั้น เส้นทางการค้าแข้งของเขากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น เขามีฟอร์มการเล่นในระดับเทพยากที่จะมีใครมาเทียบได้
ในปี 2013 ซังตุส ก็ออกมาบอกว่า ทางสโมสรได้รับข้อเสนอเพื่อซื้อตัวเนย์มาร์ จากสองสโมสรยักษ์ใหญ่ ซึ่งหลังจากนั้นเพียงไม่นาน เนย์มาร์ ก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมกับสโมสรบาร์เซโลนา ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2013 ด้วยค่าตัว 48.6 ล้านปอนด์ พร้อมค่าฉีกสัญญาอีก 190 ล้านยูโร และมีระยะเวลา 5 ปี
เมื่อย้ายมาร่วมทีมบาร์เซโลนาแล้ว เนย์มาร์ เข้ามาเล่นในตำแหน่งกองหน้า ร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรส และ ลิโอเนล เมสซี่
ในฤดูกาล 2014-2015 เนย์มาร์สามารถพาทีมบาร์เซโลนา คว้าแชมป์ได้ถึงสามถ้วยคือลาลีกา สเปน ,โกเปเดลเรย์ และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และเขายังติดอันดับสามของรางวัลบัลลงดอร์ปี 2015 อีกด้วย
ฤดูกาล 2015-2016 ในเดือนกันยายน เขาสามารถทำประตูแรกในลาลีกา ในเกมที่เอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1 ในปี 2015 เนย์มาร์ มีรายชื่อติด 1 ใน 3 ในการเข้าชิงบัลลงดอร์ 2015 ซึ่งสุดท้าย เมสซี่ได้รางวัลนี้ไปครอง ในปี 2016 เนย์มาร์ สามารถทำประตูแรกในโกปาเดลเรย์ และช่วยทีมคว้าแชมป์ลาลีกา ในปี 2016
ในปี 2017 เนย์มาร์ ออกเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกครั้ง โดยย้ายไปร่วมทีมปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง ด้วยค่าตัว 222 ล้านยูโร ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ในการค้าแข้งกับปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง ก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในเดือน กุมภาพันธ์ 2018 เนย์มาร์ได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าขวาแตก ทำให้เขาไม่สามารถลงสนามในเกมที่เหลือของฤดูกาลนี้ได้อีก
ฤดูกาล 2018-2019 ในช่วงเปิดฤดูกาล เนย์มาร์ สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยทีมเก็บชัยชนะมาได้อย่างต่อเนื่อง เขาสามารถทำแฮตทริกได้ในเกมที่ชนะ เรดสตาร์เบลเกรด 6-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในเดือนมกราคม 2019 เนย์มาร์ ก็ต้องพบกับความโชคร้ายอีกครั้งเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บในเกมที่เสมอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และหลังจากนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็สามารถเอาชนะบาร์เซโลนาไปได้และผ่านเข้ารอบไป ซึ่งทำให้ เนย์มาร์ ก็มาโพสต์ข้อความในเชิงตำหนิผู้ตัดสินในเกมนั้น ทำให้เขาโดนทำโทษด้วยการแบนจากการแข่งขันจำนวน 3 นัด ข้อดูหมิ่นผู้ตัดสิน
ในเดือนเมษายน 2019 บาร์เซโลนา ต้องพบกับความพ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษในเกมที่พบกับ แรนส์ ในรอบชิงชนะเลิศกุปเดอฟร็องส์ และในเกมนัดนั้น เนย์มาร์ ถูกถ่ายภาพในขณะที่เขาต่อยหน้ากองเชียร์ทีมแรนส์ และต่อมา เขาก็ออกมายอมรับผิดในการกระทำของเขา
ฤดูกาล 2019-2020 เขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่สามได้สำเร็จ และหลังจากนั้นฝรั่งเศสก็สั่งยุติการแข่งขันกีฬาทุกชนิดเนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ระบาดไปทั่วโลก ในเดือนกรกฎาคม หลังจากกลับมาเริ่มการแข่งขัน เนย์มาร์ช่วยทำประตูชัยให้ทีมคว้าแชมป์ คูเป้เดอฟรองซ์ ต่อมาก็สามารถคว้าแชมป์ คูเป้เดอลาลีกเอิง
สำหรับผลงานในทีมชาติบราซิล เนย์มาร์ติดทีมชาติเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2009 และติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2010 ในวัยเพียง 18 ปี และเป็นผู้ทำประตูให้กับทีมชาติบราซิลสูงสุดเป็นอันดับสอง จำนวน 68 ประตู รองมาจาก เปเล่ ตำนานทีมชาติบราซิล